วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความรู้กีฬาฟุตบอล

ประวัติและความเป็นมาของกีฬาฟุตบอล

            ฟุตบอล (Football) หรือซอคเกอร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่ไม่สามารถยืนยันถิ่นกำเนิดได้ชัดเจน เนื่องจากแต่ละชนชาติต่างมีการละเล่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน เช่นที่ฝรั่งเศสมีการละเล่นที่เรียกว่าลาซูเลอ (La soule) ส่วนอิตาลีก็มี จิคิโอ เดล คาลซิโอ (Gioco Del Calcio) และหากถกเถียงกันว่าประเทศใดเป็นผู้ให้กำเนิดกีฬาฟุตบอลก็คงไม่สามารถหาข้อยุติได้ เพราะต่างขาดหลักฐานการยืนยันที่เป็นรูปธรรมซึ่งสามารถใช้ในการอ้างอิง
           แรกเริ่มตามหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ มีการเล่นกีฬาที่คล้ายฟุตบอลในบันทึกคู่มือทางการทหารของประเทศจีนระหว่างราชวงศ์ฮั่น ในศตวรรษที่สองและสามก่อนคริสศักราช เรียกว่า “ซือ-ซู” (Tsu-Chu) ซึ่งหมายถึงการเตะลูกหนังด้วยเท้า โดยผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นต่างถูกนักประพันธ์และนักประวัติศาสตร์ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชาติ[1]
            ในญี่ปุ่นก็มีกีฬาที่คล้ายกันชื่อเคมาริ (Kemari) เป็นการละเล่นที่ต้องยืนเป็นวงกลม แล้วผู้เล่นต่างส่งบอลให้กันและกันโดยพยายามไม่ให้บอลสัมผัสพื้น เมื่อเทียบกับ ซือ-ซู แล้วเป็นกีฬาที่ไม่มีปัจจัยของการแข่งขัน ไม่มีการแย่งกันครองบอล แต่ก็ยังมีการเล่นกันมาจนถึงปัจจุบัน
            นอกจากนี้ยังพบกีฬาเอพิสคีรอส (Episkyros) ของกรีก แต่หลักฐานรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมหลงเหลืออยู่น้อยมาก[2] และยังค้นพบกีฬาที่คล้ายคลึงกันซึ่งเรียกว่าฮาร์ปาสตัม (Hatpastum) ของโรมัน ทั้งนี้วิธีการเล่นคือมีประตูคนละข้าง แล้วนำลูกบอลไปยังจุดหมาย อาจด้วยการเตะ ทุ่ม หรือขว้างลูกไปด้านหน้า ตามชื่อ ฮาร์ปาสตัม ซึ่งหมายถึงการเหวี่ยงไปข้างหน้า กีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมในช่วงปีค.ศ. 700-800 อย่างไรก็ตามเมื่อโรมันนำไปเผยแพร่ที่อังกฤษ แทบจะไม่พบการใช้เท้าเล่นกีฬาชนิดนี้
           ฟุตบอลเริ่มมีกติกาการแข่งขันที่แน่นอน เมื่ออังกฤษได้ก่อตั้งสมาคมฟุตบอลในปี ค.ศ.1962 (พ.ศ. 2406) ในผับที่มีชื่อว่าฟรีเมสันส์ (Freemasons Tavern) ในกรุงลอนดอน โดยมีการร่างกฎการแข่งขันฟุตบอลในสมุดจดรายงานด้วยลายมือของเอบีเนเซอร์ คอบบ์ มอร์เลย์ (Ebenezer Cobb Morley) ซึ่งปัจจุบันถูกจัดแสดงในหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ (British Library) ภายในสมุดประกอบด้วยกฎต้นฉบับของฟุตบอล 13 ข้อ[3] จากนั้นเกมการแข่งขันฟุตบอลก็ถูกพัฒนาเรื่อยมา
แหล่งที่มา : http://www.fat.or.th/home/?page_id=913


ที่มาของวิดีโอ : https://www.youtube.com/watch?v=qxfZLfTUxjo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น